ยินดีต้อนรับสู่...สถานที่แห่งการฝึกฝนตน พัฒนาจิต เพื่อชีวิตที่รู้แจ้ง  

บันทึกแง่คิดดีๆ



บันทึกจากพนักงานสำนักพิมพ์ใยไหม
  
 (สำนักพิมพ์ใยไหมจัดโครงการให้พนักงานทุกคนเข้าปฏิบัติธรรมเจริญสติ ณ วัดป่าโสมพนัส เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2549)
 ใจเย็นขึ้น มีสติอยู่กับตัวเองเสมอ ทุกขณะทำงานและการใช้ชีวิต ครอบครัว มองโลกในแง่ดี เข้าใจน้อง ๆ มากขึ้น ตัวเองสงบมากขึ้น ทำงานด้วยหลักเหตุและผล ที่สำคัญที่สุด คือ ไม่สนใจแต่งตัว/ซื้อของฟุ่มเฟือยสำหรับตัวเองเกินความจำเป็น
อยู่กับปัจจุบัน ไม่คิดจมปลักกับอดีต และไม่คิดฝันเฟื่องถึงอนาคต
 
บันทึกโดย GM / ฝ่ายบริหาร

 ผลจากการฝึกเจริญสติทำให้เราระลึกรู้อยู่กับปัจจุบันและรู้เท่าทันกับสิ่งที่เข้ามากระทบ ทั้งปัญหาเรื่องงานและชีวิตครอบครัวที่มีภาระหน้าที่ต้องคอยดูแล มีความกังวลน้อยลง เมื่อคิดวางแผนงาน มีความละเอียดรอบคอบ และสามารถแก้ปัญหาของงานโดยไม่มีความกังวลเข้าปนเจือ มีใจเป็นกลาง ทำให้มีความเมตตาและเข้าใจเพื่อนร่วมงานมากขึ้น รู้จักให้อภัยเมื่อเห็นผู้อื่นทำผิด และที่สำคัญมีความทุกข์กับงานน้อยลง ถึงจะมีปัญญาอันน้อยนิดก็สามารถหาวิธีการแก้ปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์

การที่เราได้เกิดมาในพุทธศาสนาเป็นผู้ที่โชคดีและมีครูบาอาจารย์ที่คอยให้คำแนะนำชี้ทางเดินให้เราค้นหาความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขที่เกิดขึ้นในตัวเราเอง โดยเพิ่มความศรัทธาและความเพียรพยายามในการเจริญสติอย่างต่อเนื่อง
 
บันทึกโดย หนุ่ย / ฝ่ายขาย

 ก่อนปฏิบัติธรรม 
จากอดีตที่ผ่านมาจะเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย ขี้น้อยใจ ร้องไห้กับตัวเองเสมอ มีความทุกข์บ่อยครั้ง หลังจากที่ได้ปฏิบัติธรรม ที่วัดป่าโสมพนัส จำนวน 2 ครั้ง และได้นำมาปฏิบัติที่บ้านและที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง ผลที่ได้จากการฝึกปฏิบัติทำให้มีสติและสมาธิมากขึ้น ใจเย็น ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ในระดับหนึ่ง เข้าใจความทุกข์ที่เกิดจากตัวเอง และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนของบุคคลอื่น ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ยึดติดกับวัตถุสักเท่าไหร่ มีความสุขที่ได้อยู่กับตัวเอง และในชีวิตการทำงาน ก็พยายามนำสติมาใช้ควบคู่กับการทำงาน และสามารถแก้ไขปัญหางานได้หลายแนวทาง มีความกล้าตัดสินใจมากขึ้น ความกลัวลดลง การทำงานผิดพลาดน้อยลง

ไม่ว่าจะทำงานอะไร ต้องมีสติ สมาธิ จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ให้ได้มากที่สุด ผลงานที่ออกมาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม จงภูมิใจและพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และให้ดำเนินชีวิตอย่างปกติมีความสุข เพราะถือว่าเราได้ทำสิ่งนั้นดีที่สุดแล้ว 
บันทึกโดย สุ / ตรวจสอบ-วางบิล

 จากการปฏิบัติธรรมที่ผ่านมา ทำให้เราเริ่มรู้เรื่องของการฝึกและใช้สติเป็นตัวกำกับการกระทำในอิริยาบถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยืน,เดิน,นั่ง,นอน หรือขณะปฏิบัติงานใดๆ อยู่ก็ตามได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยนำมาปรับใช้กับการทำงาน คือก่อนที่จะลงมือทำงานก็จะตั้งสติก่อนและลำดับเหตุการณ์ว่ามีสิ่งใดคั่งค้างหรือมีปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไขก่อนหลัง มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ จึงทำให้รู้สึกว่าไม่เครียดเวลาที่มีปัญหาเหมือนเมื่อก่อน ส่วนในชีวิตประจำวันนั้นจากการที่ต้องอยู่กับคนหมู่มากและหลากหลายพฤติกรรม สิ่งที่คอยเฝ้าระวังมากที่สุดก็คืออารมณ์ของตัวเอง พยายามให้นิ่งต่อสิ่งที่เข้ามากระทบ

เมื่อจะลงมือทำสิ่งใดหรือตัดสินใจอะไร ต้องใช้สติเป็นตัวตั้งก่อน

บันทึกโดย เล็ก / ประสานงานการผลิต


 สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติธรรม คือการหันกลับมามองดูใจเรา ว่าใจเราคิดอะไร และรู้สึกอย่างไร เพราะถ้าเรามองดูจิตได้ลึกมากเท่าไร ก็มีผลทำให้เราควบคุมอารมณ์ภายในใจเราได้เร็วมากเท่านั้น และมีผลในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น บางครั้งเราอาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และรักตัวเองมากขึ้น

บันทึกโดย ปุ๊ก / ฝ่ายPR

 ใช้ในชีวิตประจำวัน : รู้จักระงับความฟุ้งซ่านทางความคิดมากขึ้น เพราะโดยปกติค่อนข้างเป็นคนคิดเยอะ หาเรื่องวุ่นวายใส่สมองอยู่เสมอ และพักหลัง ๆ มักจะโกรธและหงุดหงิดง่าย เวลาที่ไม่พอใจอะไร หรือไม่พอใจใคร แต่พอได้ปฏิบัติธรรมได้เรียนรู้กับการอยู่กับ “ปัจจุบัน” มากขึ้น ทำให้รู้จักละสิ่งในอดีตที่เกิดขึ้น หรืออนาคตที่ยังไม่มาถึง ความฟุ้งซ่านลดน้อยลง
ในด้านการทำงาน : ในแง่การทำงานก็ได้นำ “การกำหนดรู้” มาใช้ในเวลาที่ต้องทำงานที่ต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก เช่น การอ่านต้นฉบับ การพิสูจน์อักษร ก็ช่วยให้จิตใจไม่วอกแวกไปคิดเรื่องอื่น หรือเวลาคิดอะไรฟุ้งซ่าน ก็จะรู้จักดึงจิตกลับมาอยู่กับงานที่ทำ

ทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเราไม่มีอะไรหรอกที่ “สุข” หรือ “ทุกข์” ตัวเราเองต่างหากที่ไปกำหนด ตั้งกฏเกณฑ์กับมัน ทุกอย่างล้วนเริ่มต้นที่ใจ ถ้าเรานิ่งและสงบมากพอ เราจะรู้จักแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนที่เราควรให้ความสำคัญ อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ซึ่งคำตอบจริง ๆ ก็คือ “ปัจจุบัน” นั่นเอง 
บันทึกโดย หนิง / กองบรรณาธิการ

 จากการปฏิบัติธรรมนำมาใช้ในชีวิตประจำวันคือ การจัดการชีวิตให้เป็นระบบมากขึ้น ให้มีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่กับปัจจุบันได้นานไม่วอกแวกไปกับสิ่งรอบข้าง ใส่ใจกับสิ่งที่ทำไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง ตัดความกังวลออกไป

มีสติ แล้วเกิดสมาธิ เมื่อมีสมาธิแล้วจะเกิดปัญญา

บันทึกโดย อั๋น / ฝ่ายกราฟฟิก

 ผลจากการปฏิบัติธรรมสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในเรื่องความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย พอใจในสิ่งที่มี ไม่ไขว่คว้าวุ่นวายจนเกินตัว รู้จักและเข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น เพราะได้นำเอาหลักธรรมมาสอนตัวเองอยู่เสมอ เพราะไม่มีใครสอนเราได้ดีเท่ากับตัวเอง เรียนรู้ความผิดพลาดจากตัวเองมากกว่าที่มองคนอื่น ผลจากการทำงาน ช่วยในเรื่องของอารมณ์ทำให้อารมณ์เย็นลง เมื่อมีสิ่งมากระทบต่อใจ

ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท เรียนรู้ในสิ่งที่ผิด และนำมาเป็นครูสอนใจตัวเองมากกว่าให้ผู้อื่นสอน

บันทึกโดย ฝน / ฝ่ายตรวจสอบวางบิล

 หลังจากที่ได้ไปปฏิบัติธรรม 2 ครั้ง ผลการปฏิบัติธรรมที่มีต่อการใช้ ชีวิตประจำวัน และ การทำงาน ดีขึ้นจากการใช้ชีวิตอย่างที่แล้วมา แต่ก็ยังไม่แตกต่างมากมายนักจากการใช้ชีวิตแบบเดิม ทำให้เราสงบมากขึ้น เมื่อเกิดอารมณ์โมโหจากคนรอบข้างหรือจากการทำงานไม่ทัน ทำให้เราคิดมากขึ้นก่อนที่จะลงมือทำอะไร หรือก่อนที่จะพูดอะไรออกไป

ทำให้เรารู้ว่าบางทีการฝืนใจ ฝืนตัวเอง ทำอะไรสักอย่างที่ไม่อยากทำ บางครั้งมันก็ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น

บันทึกโดย ไก่ / ฝ่ายการเงิน

 จากที่ได้ไปปฏิบัติธรรม ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เป็นสัจธรรมของโลก เช่น เวลาที่เราโกรธ หรือไม่พอใจ ถ้าเป็นอดีต ก่อนที่จะไปปฏิบัติธรรมเราจะรู้ไม่เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น ควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อมีสิ่งมากระทบ ก็หลงไปยึดติดกับอารมณ์เหล่านั้น ผมพยายามอยู่กับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน มีสติจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

รู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ใจเย็นมากขึ้น ทำกิจวัตรประจำวัน ด้วยความละเอียดรอบคอบมากขึ้น และมีสติกำหนดรู้ในสิ่งที่ทำ

บันทึกโดย ใหญ่ / ฝ่ายขายพิเศษ

 จากการไปปฏิบัติธรรม ได้ “ความรู้สึกตัว ได้ความสงบ” นำมาใช้ในชีวิตประจำวันและ การทำงาน ระหว่างที่ปฏิบัติธรรมนั้น ได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า จากที่ผ่านมาการปฏิบัติธรรมช่วยให้เราเกิดความรู้สึกตัวมากขึ้นกว่าเดิมที่เป็นอยู่หรือไม่ ? พอปฏิบัติธรรมหลายวันเข้าเริ่มหาคำตอบให้กับตัวเองได้ว่า เมื่อกายสงบ จะเกิดสติ สมาธิ และพยายามตัดความคิดที่ผุดขึ้นมาให้ออกไป และประคอง (สติ ) ความรู้สึกตัวให้เกิดขึ้นเรื่อยๆ

การปฏิบัติธรรมช่วยให้เรามีสติ สมาธิ ในการกระทำการสิ่งใดช่วยเพิ่มความเข้าใจมากขึ้นว่า “ความรู้สึกตัวทางโลกกับความรู้สึกตัวทางธรรมนั้นไม่เหมือนกัน”

บันทึกโดย หน่อย / ฝ่ายขาย

 จากที่ไม่ค่อยเป็นคนกล้าแสดงออก เพราะเป็นคนใจร้อน กลัวจะพูดผิด แต่พอได้ปฏิบัติธรรม ทำให้เรามีความคิดแบบใหม่และมีสติที่จะพูดและคิดอะไรได้มากขึ้น
จากการที่เป็นคนขี้โวยวาย ขี้โมโห เก็บอารมณ์ไม่เป็น หลังจากการฝึกมาพอสมควร ทำให้เรารู้ว่าเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้โดยที่มีผู้อื่นเป็นกระจกคอยดูและสังเกตเรา และรวมไปถึงชีวิตส่วนตัวจากการที่เป็นคนคิดมาก ขี้หงุดหงิดก็ปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นคนเงียบ มีเหตุผลจนคนรอบข้างคิดว่านี่ไม่ใช่ตัวเรา ภูมิใจที่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เป็นผู้ใหญ่ มีความคิด ความอ่านมาก ภูมิใจที่สามารถปรับปรุงตัวเองได้

แง่คิดคือ มีสติอยู่กับปัจจุบัน – เก็บอารมณ์และมีการฟังความคิดของผู้อื่นมากขึ้น และสามารถที่จะบอกหรือแนะนำผู้ที่มีความคิดเดิม ๆ อยู่ ณ ปัจจุบันได้

บันทึกโดย หนิง / ฝ่ายขาย

 ปกติจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่เป็น ชอบทำและคิดเพ้อฝันตามแต่ใจชอบ อารมณ์จะปรวนแปรกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาง่ายมาก เหมือนชีวิตจะสับสนวุ่นวายตลอดเวลา แต่หลังจากที่ได้เจริญสติ ได้มองเห็นความจริงของชีวิตมากขึ้น ยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ รอบข้างน้อยลง สุขุมขึ้น รอบคอบกับชีวิต ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ประมาทกับชีวิตน้อยลง อยู่กับปัจจุบันในแต่ละวัน ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่ก็อยู่ได้อย่างปกติสุข

ทุกข์หรือสุข เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ อยู่ที่เราเลือกอย่างมีสติ 
บันทึกโดย หญิง / ฝ่ายขาย

 การทำงาน คือการปฏิบัติธรรม งานทุกอย่างที่เราทำอยู่นั้นเราต้องมีสติกำหนดรู้อยู่ตลอด ก็คือการเอาใจใส่ในงานที่เราทำ และการกำหนดรู้นั้นจะทำให้เรามีสติมากขึ้นในการทำงาน และจะคิดจะทำอะไร ก็จะไตร่ตรองออกมาอย่างดี เพราะตัวสตินี้จะทำให้เรามีปัญญามากขึ้น งานที่ออกมาจึงมีคุณภาพ

แง่คิดที่ได้คือ รู้เท่าทันความคิดและอารมณ์ของตนเอง และอย่าพึ่งปฏิเสธการปฏิบัติธรรม ในเมื่อคุณเอาชนะกิเลสไม่เป็น

บันทึกโดย อุ้ย / ฝ่ายขาย

 สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติธรรม ผมได้ข้อคิดมา 2 อย่าง คือ 1. ทางกาย 2. ทางจิตใจ
ทางกาย หรือทางวัตถุ สิ่งของต่างๆ รวมทั้งร่างกายของเราด้วย เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่จีรัง ยั่งยืน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา
ทางจิตใจ ผมมองว่าเป็นทางด้านอารมณ์ ความรู้สึกของเราเอง ไม่ว่าจะเป็น ดีใจ เสียใจ หรือเฉยๆ มีคนบางคนบอกผมว่าให้อยู่กับปัจจุบัน อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว อนาคตเป็นสิ่งมายังไม่ถึง ดังนั้นควรจะอยู่กับปัจจุบัน
ในชีวิตประจำวัน ของผม ผมถือศีล 5 ในการทำงานเราได้พบกันคนหลายประเภทซึ่งก็มีกระทบกระทั่งกันบ้าง อารมณ์เป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าเรามีสติในการควบคุมอารมณ์และมีสติในการแก้ไขปัญหางานต่างๆทั้งตัวเราเองและคนอื่น เราก็จะพัฒนาทางด้านตัวเราเองและองค์กรไปพร้อมๆกัน เราก็จะพบกับความสำเร็จในชีวิตต่อไป

ผมได้เรียนรู้ว่าในตัวผม มีความดีและความไม่ดีอยู่ ซึ่งเจ้าความดีผมให้เป็นสีขาว และความไม่ดีผมให้เป็นสีดำ ผมนั่งดูเจ้าสีขาวและสีดำ โต้แย้งกันในเรื่องต่างๆ ในตัวผม เมื่อเจ้าตัวไหนมีเหตุผลและมีพลังอำนาจมากกว่าก็ชนะไป แต่เมื่อปฏิบัติธรรมผมได้เรียนรู้เจ้าตัว สีเทา (ตัวรู้) อีกตัวหนึ่ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันก็จะเป็นตัวคอยดูเฉยๆและนั่งอมยิ้ม เวลาที่เจ้าสีขาวและสีดำโต้แย้งกัน 
บันทึกโดย ตุ้ย / ฝ่ายคลังสินค้า

 จากการที่ได้ปฏิบัติธรรม ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อาจจะไม่ดีที่สุดในสายตาใคร แต่ในความรู้สึกของตัวเองมันคือสิ่งดี ๆ ที่ได้รับ ทำให้มีสติรอบคอบขึ้น ความฟุ้งซ่านลดน้อยลง คิดแค่เพียงว่า เราต้องอยู่กับปัจจุบัน มองความทุกข์ ความสุข เป็นเรื่องปกติที่คนเราทุกคนต้องเจอ การทำงานก็ต้องมีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแค่เราทำอย่างตั้งใจ และมีสติในการคิด การทำ ทุกอย่างย่อมดีเสมอ

คือการใช้ชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตก็จะดีขึ้น เพียงแค่เราทำทุกอย่างอย่างมีสติ และอยู่กับปัจจุบันเสมอ 
บันทึกโดย ปราง / ฝ่ายคลังสินค้า

 จากการที่ได้ไปปฏิบัติธรรม ทำให้เรารู้ถึงคำว่า “สติ” หรือความรู้สึกตัวเป็นอย่างไร ใจเย็นมากขึ้น สงบมากขึ้น รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มีจิตใจเมตตามากขึ้น อยากให้คนอื่นได้รู้ได้เห็นในสิ่งที่เราได้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ปล่อยวางได้มากขึ้น ทุกข์น้อยลง สิ่งที่ได้เหล่านี้ จึงเป็นผลพวงในการปฏิบัติงานของเรา รู้เหตุผลมากขึ้น ไม่โกรธง่าย ไม่หงุดหงิดง่าย เข้าใจเพื่อนร่วมงานมากขึ้น เข้าใจธรรมชาติของคนมากขึ้น ทำงานรู้สึกมีสติมากขึ้น ผิดพลาดหลงลืมน้อยลง อารมณ์แจ่มใส มีความสุขในการทำงาน

แง่คิดดี ๆ ที่ได้จากการไปปฏิบัติธรรม คือ ความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นภายในตัว + จิตใจ ที่แสดงถึงความสุขจริง ๆ ที่เกิดขึ้นในตัว ที่เราไม่เคยมีมาก่อน จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาลองปฏิบัติธรรม เพื่อค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต 
บันทึกโดย พร / ฝ่ายบุคคล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น