ยินดีต้อนรับสู่...สถานที่แห่งการฝึกฝนตน พัฒนาจิต เพื่อชีวิตที่รู้แจ้ง  

ประวัติวัดป่าโสมพนัส


       
          พ.ศ. 2492 – 2494 begin_of_the_skype_highlighting            2492 – 2494      end_of_the_skype_highlighting เป็นช่วงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำภูเพ็ก  โดยใช้แรงงานคนในการก่อสร้าง  มีการจ้างแรงงานชาวบ้านรอบๆ พื้นที่โดยเฉพาะ บ้านนาหัวบ่อ  บ้านหนองดินดำ การเดินทางมาทำงานมีคนงานบางคนก็เดินทางไปเช้า เย็นกลับ  และมีบางส่วนก็สร้างที่พักรอบๆ อ่างเก็บน้ำเพื่อไม่ต้องเดินทางกลับร่วมกับเจ้าหน้าที่ จึงเริ่มเกิดชุมชนขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่คนในชุมชนบ้านอ่างจะเดินทางไปประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาในวันสำคัญๆ เช่น การทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ที่วัดโพธิ์คำ  บ้านนาหัวบ่อ ซึ่งต้องเดินทางไกลและยากลำบาก ระยะทาง 6 กิโลเมตร  ในสมัยนั้นถนนหนทางไปมาไม่สะดวก และแต่ก่อนวัดพระธาตุภูเพ็กก็ยังไม่เกิดขึ้น มีเพียงโบราณสถานบนภูเขากลางป่าเท่านั้นไม่ค่อยมีชาวบ้านขึ้นไปเพราะการเดินทางยากลำบาก แต่บางครั้งก็มีพระธุดงค์ขึ้นไปจำพรรษาบ้างเพื่อเจริญวิปัสสนา  เพราะเป็นสถานที่สงบ 
         เมื่อ พ.ศ. 2494  หลวงพ่อโสม  โสภิโต  ซึ่งเป็นพระธุดงค์มาจากจังหวัดสุรินทร์  ได้เดินธุดงค์เพื่อไปจำพรรษาที่พระธาตุภูเพ็ก แต่เมื่อเดินทางมาถึงบ้านภูเพ็กการเดินธุดงค์ของท่านในวันนั้นต้องค่ำก่อน ท่านจึงได้ปักกรดที่บริเวณอ่างเก็บน้ำในคืนนั้น  รุ่งเช้าเมื่อชาวบ้านพบเห็นจึงนำอาหารมาถวายและชาวบ้านก็ได้นิมนต์ท่านอยู่ที่หมู่บ้าน เพราะหมู่บ้านภูเพ็กไม่มีวัดเวลาทำบุญต้องเดินทางไปที่วัดโพธิ์คำ บ้านนาหัวบ่อ จากนั้นชาวบ้านจึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกุฏิ  ศาลา  ห้องน้ำ  เป็นที่พักสงฆ์ขึ้น บริเวณพะลานหิน ใกล้กับต้นไฮใหญ่  ติดกับห้วยวังกอไผ่  ด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน โดยไม่มีชื่อวัด แต่ชาวบ้านเรียกที่พักสงฆ์นั้นว่า วัดหลวงพ่อเซ็น  ตามอาการสั่นของมือท่าน  
         ต่อมา พ.ศ. 2503 พระมหาสม  สุมโณ เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  ท่านเป็นผู้มีความรู้ และชอบค้นคว้าวิชาโบราณคดี  ประวัติศาสตร์ ได้เดินทางมาศึกษาพระธาตุภูเพ็ก  ทุกครั้งที่ท่านมาจะพักที่วัดหลวงพ่อเซ็น  พระมหาสมจึงได้ตั้งชื่อให้ว่า วัดโสมพนัส   ตลอดระยะเวลา พ.ศ.2594 – พ.ศ.2538 วัดโสมพนัสได้เป็นที่พักของพระสงฆ์  มีพระจำพรรษาในบางปีและหลายปีก็เป็นวัดร้างไม่มีพระจำพรรษา 
         จากการศึกษาพระธาตุภูเพ็กของพระมหาสม  สุมโณ  ครั้งนั้นทำให้เกิดการสร้างถนนขึ้นและต่อมาพระธาตุภูเพ็กจึงเป็นโบราณสถานที่รู้จักทั่วไป โดยพระมหาสมได้ร่วมกับคณะสงฆ์อำเภอพรรณานิคมและร่วมกับญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาก่อสร้างวัดพระธาตุภูเพ็กขึ้น  ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
         การเปลี่ยนแปลงชื่อวัด  มีการเปลี่ยนชื่อตามลำดับ 
ชื่อที่ 1 ในระยะแรกชาวบ้านเรียกชื่อเป็นวัดหลวงพ่อเซ็น 
ชื่อที่  2  วัดโสมพนัส  โดยพระมหาสม  เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมเป็นผู้ตั้ง 
ชื่อที่  3  วัดโสมมนัส  ตั้งชื่อโดย พระครูสุวรรณ  โพธิรัต  เจ้าคณะอำเภอพรรณนานิคมในปัจจุบัน 
ชื่อที่ 4  วัดป่าโสมพนัสสามัคคีธรรม  ถูกตั้งชื่อในสมัยที่หลวงพ่อสนใจ จำพรรษาอยู่ระหว่าง พ.ศ. 2531 – พ.ศ.2534  
ชื่อที่ 5  "วัดป่าโสมพนัส" ถูกตั้งชื่อในสมัยที่พระอาจารย์สุริยา  มหาปญฺโญ  มาจำพรรษาที่วัด ตั้งแต่ เดือนธันวาคม พ.ศ.2538 - ปัจจุบัน 
         การเปลี่ยนแปลงสถานที่วัด วัดป่าโสมพนัสได้มีการย้ายวัดตามลำดับอยู่ 2 ครั้ง เนื่องจากการขยายตัวของหมู่บ้านและการก่อสร้างโรงเรียนบ้านภูเพ็ก  ลำดับได้ดังนี้ 
พ.ศ. 2494  ตั้งวัดครั้งแรก  จะตั้งบริเวณพะลานหิน ใกล้กับต้นไฮใหญ่  ติดกับห้วยวังกอไผ่  ด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน 
การย้ายสถานที่ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2497  ย้ายมาที่สนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านภูเพ็กในปัจจุบัน 
การย้ายสถานที่ครั้งที่ 2 พ.ศ.2512  ย้ายจากสนามโรงเรียนบ้านภูเพ็ก มาตั้งบริเวณดอนปู่ตาของบ้านภูเพ็ก เมื่อ พ.ศ. 2519  ชาวบ้านได้รับความช่วยเหลือจาก กรป.กลาง หน่วย นปค.32 ได้มาทำถนนลูกรังจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ขึ้นไปพระธาตุภูเพ็ก เป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร (เส้นทางปัจจุบัน) ทำให้ย้ายศาลาจากดอนปู่ตามาที่ตั้งริมถนนทางขึ้นพระธาตุภูเพ็กณที่ตั้งปัจจุบัน และพ.ศ.2543 ก็มีการขยายบริเวณวัดออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยญาติธรรมจากกรุงเทพฯ ได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านบ้านภูเพ็ก ทำให้ปัจจุบัน วัดป่าโสมพนัสมีพื้นที่ โดยประมาณ  60  ไร่.


แผนผังวัดป่าโสมพนัส

download แผนผังสำรวจ PDF


หมายเหตุ:แผนผังสำรวจเมื่อ 20 มีนาคม 2553  - ปัจจุบันอาจมีการก่อสร้างอาคารและเสนาสนะเพิ่มเติมอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น